ต้องรู้
- วางเคอร์เซอร์ไว้ที่จุดเริ่มต้นของข้อความในหน้า
- กดค้างไว้ Ctrl+Shift (หรือ Command + Shift บน Mac) และ ลูกศรลง พร้อมกันเพื่อไฮไลต์ทีละย่อหน้า
- ปล่อยปุ่มแล้วกด Backspace.
ในขณะที่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่จะลบหน้าจากเอกสาร Microsoft Word แบบหลายหน้า คุณสามารถลบข้อความบนหน้าด้วย Delete หรือ Backspaceคีย์. เมื่อหน้าไม่มีข้อความและองค์ประกอบอื่นๆ หน้าถัดไปจะเลื่อนขึ้นเพื่อแทนที่ข้อมูลนี้ใช้กับ Word ทุกเวอร์ชัน
วิธีการลบหน้าใน Microsoft Word
หากต้องการลบเนื้อหาทั้งหมดบนหน้า ให้เลือกข้อความแล้ววางเคอร์เซอร์ที่ท้ายข้อความที่คุณต้องการลบ จากนั้นกดปุ่ม Backspace ค้างไว้ (หรือปุ่ม Delete บน Mac) ขึ้นอยู่กับจำนวนข้อความที่คุณมี ให้พิจารณาใช้ทางลัดเพื่อเน้นข้อความ
- วางเคอร์เซอร์ที่จุดเริ่มต้นของข้อความที่คุณต้องการลบ
-
กดค้างไว้ Ctrl+Shift (หรือ Command + Shift บน Mac) ในเวลาเดียวกัน ให้กด ลูกศรลง บนแป้นพิมพ์เพื่อไฮไลต์ทีละย่อหน้า ทำต่อไปจนกว่าข้อความทั้งหมดที่คุณต้องการนำออกจะถูกเน้นและปล่อยทั้งสามปุ่ม
หรือใช้เมาส์หรือทัชแพดเพื่อไฮไลต์ข้อความทั้งหมดบนหน้าที่คุณต้องการลบ
-
กดปุ่ม Backspace (หรือ Delete บน Mac) หนึ่งครั้งเพื่อลบข้อความที่ไฮไลต์ทั้งหมด หลังจากลบข้อความแล้ว ข้อความในหน้าต่อไปนี้จะเลื่อนขึ้นเพื่อแทนที่
ใช้ปุ่มลบ
การใช้ปุ่ม Delete บนพีซีเพื่อลบหน้าจะคล้ายกับการใช้ปุ่ม Backspace เว้นแต่คุณจะวางเคอร์เซอร์ที่ จุดเริ่มต้นของข้อความที่คุณต้องการลบแทนที่จะเป็นตอนท้าย หากคุณต้องการไฮไลต์แล้วลบข้อความ ให้ทำตามคำแนะนำด้านบน แต่แทนที่จะกดปุ่ม Backspace ให้กดปุ่ม Delete
ใช้ฟังก์ชั่นแสดง/ซ่อน
เมื่อคุณเลือกข้อความที่จะลบ การดูสัญลักษณ์การจัดรูปแบบที่ซ่อนอยู่จะเป็นประโยชน์ ฟังก์ชัน Show/Hide ใน Word จะแสดงเครื่องหมายย่อหน้า เซลล์ตาราง ตัวแบ่งหน้า และช่องว่างระหว่างคำที่ซ่อนอยู่ใช้เพื่อดูสิ่งที่คุณต้องลบและหลีกเลี่ยงการลบข้อความที่คุณต้องการเก็บไว้
นี่คือวิธีเปิดใช้งานฟังก์ชัน Show/Hide ก่อนที่คุณจะลบข้อความในหน้าเอกสาร Word
- บนริบบิ้น ให้เลือก Home.
-
ในกลุ่ม Paragraph เลือกไอคอน Show/Hide (สัญลักษณ์ย่อหน้า) เพื่อแสดงสัญลักษณ์การจัดรูปแบบ
- ในการปิดคุณสมบัตินี้ ให้เลือก แสดง/ซ่อน อีกครั้ง
- หรือ ใช้คีย์ผสม Ctrl+ Shift+ 8 ( หรือCommand+Shift +8) เพื่อสลับเปิดและปิดคุณลักษณะ แสดง/ซ่อน
หากคุณกำลังทำงานร่วมกันในเอกสาร ให้เปิด Track Changes ก่อนทำการแก้ไขครั้งใหญ่ เพื่อให้ผู้ทำงานร่วมกันเห็นผลงานที่คุณได้ทำไว้